เชื่อว่าหลาย ๆ คน จะต้องเคยได้ยินชื่อของ Bearbrick คืออะไร กันมาอยู่บ้างค่ะ โดยเฉพาะ ใครที่เป็นแฟนคลับของวง BTS ที่คุณนัมจุน หรือ Rap Monster นั้น ได้สะสมเอาไว้เยอะมาก ๆ ให้ใครเคยดูในไลฟ์ของเขานะคะ ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่นัมจุนนะที่สะสมเจ้าแบร์บริคเหล่านี้เอาไว้ เพราะก็ยังมีศิลปินนักร้องหรือคนที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ที่สะสมผลงานแบบนี้เอาไว้มากมายเลย และสำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Bearbrick คืออะไร วันนี้บทความของเราจะพาทุกคนมารู้จักกับของเล่นที่เป็นได้มากกว่าของเล่นสิ่งนี้กันค่ะ
อะไรคือ Bearbrick ของสะสมที่คนสะสมเยอะมาก ๆ หาคำตอบได้ที่นี่
Bearbrick (แบร์บริค) คือ โมเดลหรือฟิกเกอร์หุ่นตัวหมีที่มีสรีระในการยืนเช่นเดียวกันกับมนุษย์โดยจะยืนสองขาและหันหน้าตรง ซึ่งแบร์บริคนี้หากเราจะเขียนให้ถูกต้องจริง ๆ ก็ต้องเขียนว่า Be@arbrick ค่ะ ซึ่งถ้าเราเองที่เห็นชื่อแต่ยังไม่ได้เห็นตัวสินค้านั้น เราก็รู้สึกว่ามันดูทันสมัยดีนะ อีกทั้งยังสื่อถึงความเป็นศิลปะได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญผลงานชิ้นนี้ได้รับการออกแบบจากศิลปินและนักออกแบบที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิเวียน เวสท์วูด , ชาร์ล อีมส์ , หรือจะเป็น คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ จึงทำให้เจ้าหุ่นหมีตัวนี้เป็นหุ่นยนต์ของความครีเอทีฟที่ไม่ได้เป็นเพียงโมเดลหรือฟิกเกอร์ที่ตั้งโชว์แต่ยังเต็มไปด้วยศิลปะในตัวเองนั่นเองค่ะ
ซึ่งก็แน่นอนค่ะว่าแบร์บริคนี้ได้รับความนิยมเป็นหมู่กว้างในหมู่ของคนที่เป็นนักสะสมที่ชอบความเป็นศิลปะที่ทันสมัย ซึ่งหากใครที่อยากได้นั้นเขาก็จะมีวิธีการเรียกขนาดเป็นเปอร์เซ็นต์ค่ะ อย่างหากเป็น 100% ก็จะเท่ากับขนาด 7 เซนติเมตร ซึ่งขนาดเท่านี้คือขนาดที่เป็นมาตรฐานของแบร์บริค ส่วนขนาดอื่น ๆ ก็มีดังนี้ค่ะ 50% จะเท่ากับขนาด 4 เซนติเมตร , 70% จะเท่ากับขนาด 5 เซนติเมตร , 400% จะเท่ากับขนาด 28 เซนติเมตร , และ 1,000% จะเท่ากับขนาด 70 เซนติเมตร ซึ่งก็เป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดค่ะ
ซึ่งหากจะถามถึงเหตุผลที่ว่าทำไม Bearbrick นั้น ถึงเป็นที่นิยมของนักสะสมและมีคนที่สะสมมากมายขนาดนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความเป็นศิลปะและความทันสมัย ที่มีมากกว่าของเล่น โดยแบร์บริคนี้เขาก็เป็นฟิกเกอร์หรือว่าโมเดลที่เอาไว้ตั้งโชว์ใช่หรือไม่คะ แต่ว่าความที่เขาเป็นของสะสมตั้งโชว์นี่แหละค่ะที่ทำให้เขาเป็นที่โด่งดัง ซึ่งสาเหตุแรกที่ทำให้ผลงานชิ้นนี้เป็นที่นิยมของนักสะสมนั้น ก็อย่างที่เราได้บอกไปตอนต้นค่ะว่าเป็นผลงานที่ได้นักออกแบบรวมถึงครีเอเตอร์ที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ มาร่วมมือกันในการทำงานครั้งนี้โดยการออกแบบกุ่นหมีตัวนี้ให้มีความเป็นเอกลักษณ์
ซึ่งในประเทศไทยของเรานั้นช่วงก่อนหน้าปี 2558 ทางสยามเซ็นเตอร์ก็ได้มีการติดต่อประสานงานให้ทาง Medicom Toy Incorporated เพื่อขอให้นำเอาผลงานมาจัดแสดงในประเทศไทย แต่ด้วยเวลาที่ไม่เหมาะสม จึงไม่สามารถที่จะมาได้สักที และในปี 2558 นี้เองที่ทางสยามเซ็นเตอร์ได้ถูกตอบรับโดยการนำเอา BE@RBRICK World Wide Tour II (BBWT II) ขนาด 1000% มาจัดแสดงอย่างเต็มอเวนิว มามากกว่า 80 ตัว ซึ่งก็ถือเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและนับเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำของนักสะสมเลยก็ว่าได้
โดยจะมีอยู่หนึ่งคนที่เป็นที่น่าชื่นชมมาก ๆ ในการสะสม Bearbrick ซึ่งเขาก็คือ ‘เอดิสัน เฉิน’ หรือ ‘เฉิน กวานซี’ ที่หลาย ๆ คน อาจจะรู้จักกัน โดยก่อนที่ทางเมดิคอมจะนำเอาแบร์บริคมาจัดแสดงในประเทศไทยนั้น ก่อนหน้านั้นหนึ่งปีก็ได้ไปจัดที่เซี่ยงไฮ้มาก่อน ซึ่งเขาก็รับหน้าที่เป็นภัณฑารักษ์ให้กับงานในครั้งนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าเขานั้นชื่นชอบและติดตามผลงานของแบร์บริคมาตั้งแต่สมัยที่เรียนแล้ว อีกทั้งเขายังมีเพื่อนที่ทำงานอยู่ในเมดิคอมอีก ขึงทำให้เขาได้รับโอกาสในการได้เป็นผู้ร่วมออกแบบแบร์บริคด้วยอีกคน
และเราชอบคำพูดประโยคหนึ่งของเขามาก ๆ ค่ะ ประมาณว่า แนวคิดในการสร้างแบร์บริคนั้นอยู่ตรงแนวความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นมากกว่าของเล่น คือการสร้างคุณค่าของแบร์บริคให้มีคุณค่าทางศิลปะ ซึ่งมันก็เป็นเช่นดังที่เขาได้ว่าเอาไว้ค่ะ เพราะตอนนี้แบร์บริคกลายเป็นของสะสมที่ครองใจคนที่ชื่นชอบศิลปะไปได้อย่างง่ายดายภายในระยะเวลาไม่นาน และสิ่งสำคัญที่ทำให้มันมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกก็คือ การที่เราจะไม่รู้เลยว่าในกล่องนั้นจะมีแบร์บริคแบบไหนอยู่ ซึ่งเราก็จะต้องซื้อมาแล้วมาลุ้นเอาเองว่าจะได้แบร์บริคแบบไหนมาครอบครอง ซึ่งก็ถือว่านี่เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเขาเลยล่ะค่ะ
และนี่ก็คือความหมายของ Bearbrick คืออะไร ที่หลาย ๆ คน อาจเคยเห็นเคยได้ยิน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ซึ่งเมื่อได้อ่านแล้วก็พอจะเข้าใจหรือไม่คะว่าความพิเศษของแบร์บริคนี้คืออะไรแล้วทำไมจึงมีผู้คนถึงให้ความสนใจในการซื้อมาเป็นของเก็บสะสมกันมากมายขนาดนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจใน Bearbrick ก็จะเข้าใจความหมายของมันได้ดี
Credit : Bearbrick
อ่านบทความ 8 Bearbrick ที่ราคาแพงที่สุดในยุคนี้ อัพเดทปี 2022