เชื่อว่าใครที่เป็นนักสะสมมือทองนั้นจะต้องรู้จักกับเจ้าหมีพลาสติกอย่าง Baerbrick กันอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหมีตัวนี้เกิดขึ้นมาด้วยความสร้างสรรค์ของศิลปะบวกกับความเป็นของเล่นได้อย่างชัดเจน และด้วยความที่แต่ละรุ่นของแบร์บริคนั้น เป็นผลงานของศิลปินรวมถึงการร่วมมือในการออกแบบของผู้คนที่มีชื่อเสียงมากมาย ทำให้มันกลายเป็นของสะสมที่นักสะสมหลาย ๆ คน ต่างต้องการได้เป็นอย่างดี และวันนี้บทความของเราก็มีประวัติน่ารู้ของ Bearbrick มาฝากทุกท่านให้ได้รู้จักเจ้าหมีพลาสติกเหล่านี้กันมากยิ่งขึ้น
เปิดประวัติ Baerbrick หมีพลาสติกที่นักสะสมหลาย ๆ คน มีติดบ้าน
Bearbrick คือ ของเล่นรูปทรงหมีที่ทำจากพลาสติกและได้มีการออกแบบในเรื่องของรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ได้ทั้งศิลปินและผู้ที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ในวงการมาร่วมมือกันในการออกแบบอย่างมากมาย โดยแบร์บริคได้รับการผลิตจากบริษัท Medicom Toy Incorporated ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการเปิดตัวครั้งแรกของแบร์บริคนั้นก็มาในรูปแบบของขวัญที่จะใช้แจกในงาน World Character Convention ครั้งที่ 12 ในกรุงโตเกียว ซึ่งตรงกับปี 2001
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าจากหมีพลาสติกตัวเล็กที่ใช้เป็นของขวัญแจกผู้เข้าชมในวันนั้นจะกลายมาเป็นของสะสมที่น่าทึ่งและมีผู้ที่ตั้งใจเก็บสะสมให้ครบทุกคอลเลคชั่นอย่างในทุกวันนี้ได้ ซึ่งหลังจากงานเวิลด์คาแร็กเตอร์คอนเวนชั่นได้จบลงนั้น ก็ได้มีการพัฒนาให้หุ่นหมีเหล่านี้มีขนาดและรูปทรงที่มีขนาดหลากหลาย อีกทั้งในแต่ละคอลเลคชั่นนั้นก็จะมีความแตกต่างกันที่เรื่องของลาย ซึ่งการสร้างลายหรือการดีไซน์ลานต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะขึ้นอยู่กับเหตุการณ์สำคัญหรือวันสำคัญต่าง ๆ หรืออาจจะเป็นเทศกาลที่มีความยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเป็นต้น
โดยเมดิคอมทอยนั้น จะมีการวางจำหน่ายเจ้าแบร์บริคเหล่านี้มีละสองครั้ง ซึ่งก่อนที่จะทำการวางจำหน่ายนั้นก็จะมีการเชิญครีเอทีฟที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถจากทั่วโลกมาร่วมเป็นผู้ออกแบบผลงานในแต่ละครั้งด้วย ทำให้เราได้เห็นลวดลายรวมถึงสไตล์ของแบร์บริคที่มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละครั้งนั่นเอง ซึ่งศิลปินและครีเอทีแต่ละคนก็ได้มีการออกแบบหมีเหล่านี้ในสไตล์ที่เป็นของตัวเอง หรือเกิดการนำของคนนี้มารวมกับคนนั้น ทำให้เกิดความแปลกใหม่ของสไตล์หมีแบร์บริคได้เป็นอย่างดีเลยนั่นเอง
ซึ่งก็ถือว่าBearbrick นั้น ตั้งแต่ในตอนเริ่มแรกจนถึงตอนนี้เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมาก ๆ เลยทีเดียว มีหลากหลายประเทศที่มีความต้องการที่อยากให้มาจัดแสดงแบร์บริค แต่ก็ถูกปฏิเสธกันไปในหลาย ๆ ครั้ง ในประเทศไทยของเราเองก็เคยโดนปฏิเสธเช่นเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยได้รับโอกาสเหล่านั้น เพราะทางเมดิคอมทอยได้มาถึงประเทศไทยเพื่อจัดแสดงแบร์บริคเหล่านี้ แถมยังมาพร้อมขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย จึงทำให้ผู้คนที่เป็นนักสะสมอยู่แล้วได้แห่แหนกันไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
หากจะให้นิยามถึงคำว่า ‘Bearbrick’ ให้ได้เข้าใจให้ง่ายขึ้นนั้น ก็คงจะบอกได้ว่าเขาเป็นหมีที่มีท่าทางการยืนเช่นเดียวกันกับคน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมาก ๆ เลยทีเดียว อีกทั้งแบร์บริคก็ยังมีลักษณะพิเศษที่เฉพาะหลายอย่าง อย่างที่เราเห็นได้ชัดเลยก็คือชื่อของแบรนด์ที่จะเขียนว่า BE@RBRICK ทำให้ดูมีความทันสมัยและเป็นที่น่าจดจำของผู้คนได้มากขึ้นเลยทีเดียว หรือจะเป็นการเรียกความสูงของหุ่นหมีเหล่านี้ด้วยการเปรียบเป็น ‘เปอร์เซ็นต์’ เช่น 100% ก็จะหมายถึง ขนาดมาตรฐานที่มีความสูงอยู่ที่ 7 ซม. หรือจะเป็นขนาด 50% ที่หมายถึงหมีตัวนี้มีขนาดอยู่ที่ 4 ซม. เป็นต้น
และสิ่งที่มีความพิเศษยิ่งไปกว่านั้นที่นักสะสมหลาย ๆ คน เลือกที่จะเก็บสะสมBearbrick เลยก็คือเรื่องของการขายด้วยกล่องที่มีการปิดอย่างมิดชิดทำให้ไม่สามารถเห็นที่อยู่ภายในได้เลยว่าจะเป็นแบบใด ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อที่จำเป็นจะต้องลุ้นเอาเองว่าแบร์บริคตัวที่เราซื้อนั้นจะเป็นแบบไหน แต่ว่าจะได้แบบไหนมาก็ถือว่ามีความคอมพลีทในเรื่องของการเก็บสะสมอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีความคุ้มค่าต่อเงินที่ซื้อไปอีกด้วย ยิ่งได้เก็ให้ครบทุกคอลเลคชั่นที่ปล่อยออกมาวางจำหน่าย ก็จะเป็นการเก็บสะสมที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ อีกด้วยนั่นเอง
ตัวอย่างของแบร์บริคที่หลาย ๆ คน รู้จักก็เช่น Be@rbrick Mickey R&W 1000% เพราะเราเชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จักตัวการ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังอย่างมิกกี้เมาส์กันอยู่แล้ว ซึ่งก้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ขายดีมาก ๆ ด้วยความน่ารักและเป็นที่รู้จักอย่างมากมาย อีกทั้งยังสามารรถนำไปใช้ในการตกแต่งบ้าน ตกแต่งห้อง หรือในออฟฟิศได้อีกด้วย หรือจะเป็นรุ่น Be@rbrick Vangogh Self Protrait 1000% ที่ทางเมดิคอมได้ทำการร่วมงานของพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ และรุ่นนี้ก็ได้นำภาพ Vangogh Self Protrait มาใช้ในการออกแบบครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นการร่วมงานที่คุ้มค่ามาก ๆ
และหากใครที่เป็นแฟน Bearbrick และอยากเก็บสะสมเจ้าหมีพลาสติกเหล่านี้ก็ลองเปิดใจหาซื้อมาเก็บกันดู เชื่อว่าทุกท่านที่ลองแล้วจะต้องติดใจและหาซื้อมาเก็บกันอีกครั้งอย่างแน่นอนเลย และนี่ก็คือเรื่องราวดี ๆ ของแบร์บริคที่เราอยากนำมาแชร์ให้คุณได้รู้จักหมีเหล่านี้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ที่มา
https://images.lifestyleasia.com/
อ่านต่อที่ ของเล่น